ข้อมูลจาก
https://www.facebook.com/buddha.isara?fref=nf
--------
๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
เห็นข่าวบรรดาพวกองครักษ์พิทักษ์ธรรมกาย นายธัมมชโย ต่างดาหน้ากันออกมาปกป้องมติอัปยศ มหาเถร และธรรมกาย นายธัมมชโย แถมลากยาวไปถึงว่าฉันกำลังทำให้กระบวนการแต่งตั้งอนาคตพระสังฆราชที่ควรจะเป็นของมหานิกาย จะกลายเป็นของธรรมยุต อุ๊บ๊ะ แม่เจ้า เอาอะไรคิดเนี่ย คิดได้ยังไง
หรือว่าทุกลมหายใจของคนพวกนี้ หายใจเข้าก็หาเงิน หายใจออกก็หาอำนาจ และพระธรรมวินัยหายไปไหนล่ะจ๊ะ ละอายน่ะมีไหม ไม่รู้หรือไงว่ากำลังนุ่งห่มชุดอะไรอยู่ ผ้ากาสาวพัสตร์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์มิได้ให้นุ่งห่มเพื่อเอาไว้แสวงหาเงินกับอำนาจนะจ๊ะ
ฉันสารภาพตรงๆ ว่า ไม่เคยคิดเลยว่าใครจะเข้ามาเป็นสังฆราช ขอให้เป็นพระผู้ทรงธรรม ทรงวินัย เป็นผู้ที่พุทธบริษัทพึ่งพาอาศัยได้ทางสติปัญญาและจิตวิญญาณ ส่วนจะเป็นธรรมยุติหรือมหานิกาย ฉันไม่เคยให้ความสำคัญ ในใจฉันคิดเสมอว่าทุกนิกายคือญาติ หากเหยียบยืนอยู่ในหลักธรรมนองคลองธรรมอย่างซื่อตรง
ไม่ใช่ใช้คำสั่งไม่ฟ้องของอัยการมาอยู่เหนือหลักพระธรรมวินัย ดังเช่นที่มหาเถรยกขึ้นมาอ้าง แล้วนำมาซึ่งมติอัปยศ ที่ฉันทนอยู่มิได้ เพราะถ้าขืนปล่อยเอาไว้ ความเสียหายล่มสลายของพระธรรมวินัยจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต สังฆมณฑลจะเกิดบรรทัดฐานขึ้นใหม่ว่า หากผิดพระธรรมวินัยแต่คดีนั้นเกาะเกี่ยวกับคดีทางโลก ให้รอคำตัดสินคดีทางโลกเสียก่อน หากศาลทางโลกบอกว่าไม่ผิด ศาลสงฆ์ก็ต้องคล้อยตาม โดยมิให้ความสำคัญต่อพระธรรมวินัย เช่นนี้คือมิจฉาทิฐิที่เกิดขึ้นในศาสนจักรแล้ว และที่เลวร้ายสุดๆ คือ ผู้ที่เป็นมิจฉาทิฐิ มีความเห็นผิดจากพระธรรมวินัย คือกรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นองค์กรปกครองสูงสุดในบวรพระพุทธศาสนา เช่นนี้แล้วจะทำให้ฉันยอมรับได้กระนั้นหรือ
และหากพวกคุณได้รู้อย่างที่ฉันรู้ ได้รับฟังพระดำรัสของเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชอย่างที่ฉันได้ฟัง รวมทั้งพระลิขิตที่พระองค์ทรงมีถึง ๕ ฉบับ ด้วยใจความที่แฝงไปด้วยความตัดพ้อ พวกคุณก็จะได้รับรู้ถึงไส้ถึงพุงของกรรมการมหาเถรสมาคมกลุ่มนี้ ซึ่งตอนนั้นมีสมเด็จวัดสระเกศเป็นหัวหอก วัดปากน้ำเป็นผู้สนับสนุนหลัก ในการละเลย เมินเฉยต่อพระลิขิตและพระธรรมวินัยเพราะเห็นแก่นิกาย เห็นแก่พวก เห็นแก่ลาภ จึงนำมาซึ่งมติที่ทำลายหลักการของพระธรรมวินัยโดยตรง เพราะฉันดันรู้มากเช่นนี้แหละ จึงต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อส่งสัญญาณตักเตือนสติพระผู้ปกครอง เลยนำมาซึ่งสังฆทานเน่าชุดใหญ่ที่แฝงไว้ด้วยความหมายลึกซึ้ง แม้จะรู้สึกผิด รู้สึกอาย ว่าใครๆ เขาจะดูว่าเรา ถ่อย ต่ำ เลวร้าย ไร้มารยาท ขาดสัมมาคารวะ แต่ก็เป็นยุทธวิธีที่ฉันพอจะคิดได้ในเวลาอันสั้น เพื่อตอบโต้พวกมิจฉาทิฐิ ที่มีอำนาจปกครองสังฆมณฑล เพราะขืนปล่อยไปเรื่องจะเลวร้ายมากกว่าดี หากประเทศไทย พระสงฆ์ไทย มีองค์กรปกครองสงฆ์ที่ไม่ให้ความสำคัญต่อพระธรรมวินัย แต่ไปให้ความสำคัญของคำสั่งอัยการ เช่นนี้ ฉันยอมสู้ตายดีกว่า
ที่มหาโชว์ออกมาพูดว่า การปฏิรูปครั้งนี้หนักกว่าทุกครั้ง เหมือนดังผ้าลายกระทืบผ้าเหลือง
ฉันอยากจะบอกว่า หากผ้าเหลืองไม่ทำตัวใฝ่ต่ำ ไม่ยินยอมให้คำสั่งของอัยการมาชี้นำเหนือพระธรรมวินัย ผ้าลายที่ไหนเขาจะกล้ายกตีนขึ้นสูงๆ ไปกระทืบ ได้กระทืบถึง แต่การที่มหาเถรสมาคมอ้างคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ จะยุติกระบวนการของพระวินัย ยักยอกทรัพย์ไม่ปาราชิก เพราะอัยการสั่งไม่ฟ้อง เช่นนี้ สมควรโดนกระทืบไหม
และที่บอกว่า ไม่เคยถามพระสงฆ์เลยว่าต้องการอะไร ฉันอยากถามว่ามหาเถรสมาคมทำไมถึงไม่เคยเรียกธัมมชโยมาถามบ้าง แล้วจะมาตัดสินว่าไม่ผิดได้ไง
ที่จริงการไปพบคุณเทียนฉายครั้งนี้ ฉันก็ได้เสนอไปแล้วว่า ควรจัดส่งตัวแทนไปพูดคุยกับสงฆ์ผู้ใหญ่ทั้ง ๒ นิกาย ไม่เว้นแม้ในมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง ๒ แห่ง
ที่บอกว่าพุทธะอิสระเป็นพวกเป่านกหวีด นั่นไม่ปฏิเสธ แต่ฉันก็ไม่ได้ทำตัวใฝ่ต่ำ ฝักใฝ่ อยากได้ยศ ตำแหน่ง หรือลาภสักการะใดๆ ด้วยเพราะฉันไม่อยากเป็นหมาเชื่องๆ ของพรรคการเมืองพรรคไหน หรือกลุ่มทุนของวัดใด ฉันยังเป็นพญาราชสีห์แห่งเวทีแจ้งวัฒนะ พุทธะอิสระ เหมือนเดิม
ที่พระเมธีธรรมาจารย์ มาเรียกร้องให้ยุบคณะ สปช. ที่ทำหน้าที่ปฏิรูปแนวทาง และมาตรการปกป้องพระพุทธศาสนา
ฉันกลับเห็นว่าคุณไพบูลย์ และคณะเขากำลังช่วยทำความสะอาดให้สังฆมณฑล และพยายามปกป้องรักษาพระธรรมวินัย อุดมการณ์ของพระศาสดา เขามิได้ปกป้องบุคคลที่เดี๋ยวเกิด เดี๋ยวตาย แต่พระธรรมวินัยเป็นอมตธรรม เป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอน ไม่ใช่ธรรมกายสอนและบัญญัติ อย่างที่พวกมหาเถรเข้าใจถึงขนาดกล่าวว่า พระพุทธศาสนาหากขาดธัมมชโยคงไม่เหลืออะไร ใครเป็นผู้กล่าวลองไปถามสมเด็จวัดปากน้ำดู
ฉันจึงไม่เข้าใจว่าท่านเมธีธรรมาจารย์นั้นกระวนกระวาย เดือดเนื้อร้อนใจอะไร หรือท่านเองก็เป็นคนหนึ่งที่อยู่ในข่ายความสกปรกที่ต้องถูกกำจัด เลยเดือดร้อน
และที่เจ้าคุณพิพิธแห่งวัดสุทัศนเทพวราราม ออกมาโวยวายเกรี้ยวกราดใส่ฉัน ฉันพอเข้าใจ เพราะท่านก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่เข้าไปรับเงินธรรมกายมาด้วย ยังจำได้ไหม ถึงใครคนหนึ่งที่ชอบอ้างเบื้องสูง จนต้องโดนเบื้องสูงเบรกจนหัวทิ่ม ปิดปากไปพักหนึ่ง ยังจำได้ไหม ถึงเรื่องสมเด็จเหนือหัวที่เกิดขึ้นในวัดสุทัศน์โดยเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน สมภารรับเงินไปแต่ปล่อยให้เสี่ยอู๊ดติดคุกแทน
รวมความแล้ว ฉันอยากให้บรรดาเจ้ากูที่ออกมาปกป้องธรรมกายและมหาเถร ให้ช่วยกลับไปส่องกระจกดูตัวเองกันหน่อยดีไหมว่า ศีลน่ะยังอยู่ครบหรือเปล่า ปาราชิก ๔ สังฆาทิเสส ๑๓ อนิยตะ ๒ ปาจิตตีย์ ปาฏิเทสนียะ ทุกกฎ ทุพภาษิต มีสิกขาใดบ้างที่ล่วงละเมิดไปแล้ว แล้วปกปิดเอาไว้ ว่างๆ หลังทำเรื่องปฏิรูปศาสนาและจัดการกับธรรมกายแล้ว จะช่วยบอกให้ว่าพวกท่านเหลือศีลกันคนละกี่ข้อ
พุทธะอิสระ
## หลวงปู่พุทธะอิสระ เขียนถึงเรื่องที่มีคนกล่าวหาท่านเรื่องไปขัดขวางกระบวนการแต่งตั้งพระสังฆราช ##
https://www.facebook.com/buddha.isara?fref=nf
--------
๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
เห็นข่าวบรรดาพวกองครักษ์พิทักษ์ธรรมกาย นายธัมมชโย ต่างดาหน้ากันออกมาปกป้องมติอัปยศ มหาเถร และธรรมกาย นายธัมมชโย แถมลากยาวไปถึงว่าฉันกำลังทำให้กระบวนการแต่งตั้งอนาคตพระสังฆราชที่ควรจะเป็นของมหานิกาย จะกลายเป็นของธรรมยุต อุ๊บ๊ะ แม่เจ้า เอาอะไรคิดเนี่ย คิดได้ยังไง
หรือว่าทุกลมหายใจของคนพวกนี้ หายใจเข้าก็หาเงิน หายใจออกก็หาอำนาจ และพระธรรมวินัยหายไปไหนล่ะจ๊ะ ละอายน่ะมีไหม ไม่รู้หรือไงว่ากำลังนุ่งห่มชุดอะไรอยู่ ผ้ากาสาวพัสตร์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์มิได้ให้นุ่งห่มเพื่อเอาไว้แสวงหาเงินกับอำนาจนะจ๊ะ
ฉันสารภาพตรงๆ ว่า ไม่เคยคิดเลยว่าใครจะเข้ามาเป็นสังฆราช ขอให้เป็นพระผู้ทรงธรรม ทรงวินัย เป็นผู้ที่พุทธบริษัทพึ่งพาอาศัยได้ทางสติปัญญาและจิตวิญญาณ ส่วนจะเป็นธรรมยุติหรือมหานิกาย ฉันไม่เคยให้ความสำคัญ ในใจฉันคิดเสมอว่าทุกนิกายคือญาติ หากเหยียบยืนอยู่ในหลักธรรมนองคลองธรรมอย่างซื่อตรง
ไม่ใช่ใช้คำสั่งไม่ฟ้องของอัยการมาอยู่เหนือหลักพระธรรมวินัย ดังเช่นที่มหาเถรยกขึ้นมาอ้าง แล้วนำมาซึ่งมติอัปยศ ที่ฉันทนอยู่มิได้ เพราะถ้าขืนปล่อยเอาไว้ ความเสียหายล่มสลายของพระธรรมวินัยจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต สังฆมณฑลจะเกิดบรรทัดฐานขึ้นใหม่ว่า หากผิดพระธรรมวินัยแต่คดีนั้นเกาะเกี่ยวกับคดีทางโลก ให้รอคำตัดสินคดีทางโลกเสียก่อน หากศาลทางโลกบอกว่าไม่ผิด ศาลสงฆ์ก็ต้องคล้อยตาม โดยมิให้ความสำคัญต่อพระธรรมวินัย เช่นนี้คือมิจฉาทิฐิที่เกิดขึ้นในศาสนจักรแล้ว และที่เลวร้ายสุดๆ คือ ผู้ที่เป็นมิจฉาทิฐิ มีความเห็นผิดจากพระธรรมวินัย คือกรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นองค์กรปกครองสูงสุดในบวรพระพุทธศาสนา เช่นนี้แล้วจะทำให้ฉันยอมรับได้กระนั้นหรือ
และหากพวกคุณได้รู้อย่างที่ฉันรู้ ได้รับฟังพระดำรัสของเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชอย่างที่ฉันได้ฟัง รวมทั้งพระลิขิตที่พระองค์ทรงมีถึง ๕ ฉบับ ด้วยใจความที่แฝงไปด้วยความตัดพ้อ พวกคุณก็จะได้รับรู้ถึงไส้ถึงพุงของกรรมการมหาเถรสมาคมกลุ่มนี้ ซึ่งตอนนั้นมีสมเด็จวัดสระเกศเป็นหัวหอก วัดปากน้ำเป็นผู้สนับสนุนหลัก ในการละเลย เมินเฉยต่อพระลิขิตและพระธรรมวินัยเพราะเห็นแก่นิกาย เห็นแก่พวก เห็นแก่ลาภ จึงนำมาซึ่งมติที่ทำลายหลักการของพระธรรมวินัยโดยตรง เพราะฉันดันรู้มากเช่นนี้แหละ จึงต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อส่งสัญญาณตักเตือนสติพระผู้ปกครอง เลยนำมาซึ่งสังฆทานเน่าชุดใหญ่ที่แฝงไว้ด้วยความหมายลึกซึ้ง แม้จะรู้สึกผิด รู้สึกอาย ว่าใครๆ เขาจะดูว่าเรา ถ่อย ต่ำ เลวร้าย ไร้มารยาท ขาดสัมมาคารวะ แต่ก็เป็นยุทธวิธีที่ฉันพอจะคิดได้ในเวลาอันสั้น เพื่อตอบโต้พวกมิจฉาทิฐิ ที่มีอำนาจปกครองสังฆมณฑล เพราะขืนปล่อยไปเรื่องจะเลวร้ายมากกว่าดี หากประเทศไทย พระสงฆ์ไทย มีองค์กรปกครองสงฆ์ที่ไม่ให้ความสำคัญต่อพระธรรมวินัย แต่ไปให้ความสำคัญของคำสั่งอัยการ เช่นนี้ ฉันยอมสู้ตายดีกว่า
ที่มหาโชว์ออกมาพูดว่า การปฏิรูปครั้งนี้หนักกว่าทุกครั้ง เหมือนดังผ้าลายกระทืบผ้าเหลือง
ฉันอยากจะบอกว่า หากผ้าเหลืองไม่ทำตัวใฝ่ต่ำ ไม่ยินยอมให้คำสั่งของอัยการมาชี้นำเหนือพระธรรมวินัย ผ้าลายที่ไหนเขาจะกล้ายกตีนขึ้นสูงๆ ไปกระทืบ ได้กระทืบถึง แต่การที่มหาเถรสมาคมอ้างคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ จะยุติกระบวนการของพระวินัย ยักยอกทรัพย์ไม่ปาราชิก เพราะอัยการสั่งไม่ฟ้อง เช่นนี้ สมควรโดนกระทืบไหม
และที่บอกว่า ไม่เคยถามพระสงฆ์เลยว่าต้องการอะไร ฉันอยากถามว่ามหาเถรสมาคมทำไมถึงไม่เคยเรียกธัมมชโยมาถามบ้าง แล้วจะมาตัดสินว่าไม่ผิดได้ไง
ที่จริงการไปพบคุณเทียนฉายครั้งนี้ ฉันก็ได้เสนอไปแล้วว่า ควรจัดส่งตัวแทนไปพูดคุยกับสงฆ์ผู้ใหญ่ทั้ง ๒ นิกาย ไม่เว้นแม้ในมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง ๒ แห่ง
ที่บอกว่าพุทธะอิสระเป็นพวกเป่านกหวีด นั่นไม่ปฏิเสธ แต่ฉันก็ไม่ได้ทำตัวใฝ่ต่ำ ฝักใฝ่ อยากได้ยศ ตำแหน่ง หรือลาภสักการะใดๆ ด้วยเพราะฉันไม่อยากเป็นหมาเชื่องๆ ของพรรคการเมืองพรรคไหน หรือกลุ่มทุนของวัดใด ฉันยังเป็นพญาราชสีห์แห่งเวทีแจ้งวัฒนะ พุทธะอิสระ เหมือนเดิม
ที่พระเมธีธรรมาจารย์ มาเรียกร้องให้ยุบคณะ สปช. ที่ทำหน้าที่ปฏิรูปแนวทาง และมาตรการปกป้องพระพุทธศาสนา
ฉันกลับเห็นว่าคุณไพบูลย์ และคณะเขากำลังช่วยทำความสะอาดให้สังฆมณฑล และพยายามปกป้องรักษาพระธรรมวินัย อุดมการณ์ของพระศาสดา เขามิได้ปกป้องบุคคลที่เดี๋ยวเกิด เดี๋ยวตาย แต่พระธรรมวินัยเป็นอมตธรรม เป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอน ไม่ใช่ธรรมกายสอนและบัญญัติ อย่างที่พวกมหาเถรเข้าใจถึงขนาดกล่าวว่า พระพุทธศาสนาหากขาดธัมมชโยคงไม่เหลืออะไร ใครเป็นผู้กล่าวลองไปถามสมเด็จวัดปากน้ำดู
ฉันจึงไม่เข้าใจว่าท่านเมธีธรรมาจารย์นั้นกระวนกระวาย เดือดเนื้อร้อนใจอะไร หรือท่านเองก็เป็นคนหนึ่งที่อยู่ในข่ายความสกปรกที่ต้องถูกกำจัด เลยเดือดร้อน
และที่เจ้าคุณพิพิธแห่งวัดสุทัศนเทพวราราม ออกมาโวยวายเกรี้ยวกราดใส่ฉัน ฉันพอเข้าใจ เพราะท่านก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่เข้าไปรับเงินธรรมกายมาด้วย ยังจำได้ไหม ถึงใครคนหนึ่งที่ชอบอ้างเบื้องสูง จนต้องโดนเบื้องสูงเบรกจนหัวทิ่ม ปิดปากไปพักหนึ่ง ยังจำได้ไหม ถึงเรื่องสมเด็จเหนือหัวที่เกิดขึ้นในวัดสุทัศน์โดยเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน สมภารรับเงินไปแต่ปล่อยให้เสี่ยอู๊ดติดคุกแทน
รวมความแล้ว ฉันอยากให้บรรดาเจ้ากูที่ออกมาปกป้องธรรมกายและมหาเถร ให้ช่วยกลับไปส่องกระจกดูตัวเองกันหน่อยดีไหมว่า ศีลน่ะยังอยู่ครบหรือเปล่า ปาราชิก ๔ สังฆาทิเสส ๑๓ อนิยตะ ๒ ปาจิตตีย์ ปาฏิเทสนียะ ทุกกฎ ทุพภาษิต มีสิกขาใดบ้างที่ล่วงละเมิดไปแล้ว แล้วปกปิดเอาไว้ ว่างๆ หลังทำเรื่องปฏิรูปศาสนาและจัดการกับธรรมกายแล้ว จะช่วยบอกให้ว่าพวกท่านเหลือศีลกันคนละกี่ข้อ
พุทธะอิสระ